สังคมผู้สูงอายุ ที่กำลังเกิดขึ้นในหลายๆประเทศ รวมถึงประเทศไทยในตอนนี้ เป็นเทรนด์ที่มาพร้อมความท้าทาย ไม่ใช่แค่สำหรับรัฐบาล แต่รวมถึงครอบครัวและคนใกล้ชิดด้วย การที่ได้ดูแลพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย ให้มีชีวิตหลังเกษียณอย่างมีความสุข สบายใจ และมีชีวิตชีวาอาจจะเป็นเรื่องที่ลูกหลานบางคนคาดหวังที่จะทำให้ได้เพื่อดูแลท่าน
มาดู 10 เทคนิค ที่จะช่วยให้การดูแลผู้สูงอายุผ่านไปได้อย่างราบรื่นมากขึ้น
บ้านคือที่สุด
หลายๆคนอาจกำลังมองหาสถานดูแลผู้สูงอายุ ถ้าเป็นไปได้การเลือกดูแลท่านที่ “บ้าน” ซึ่งเป็นสถานที่ที่อบอุ่นและคุ้นเคย ช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกปลอดภัยมากที่สุด
ทีมเวิร์คคือพลัง
การดูแลผู้สูงอายุเป็นงานใหญ่ การแบ่งหน้าที่ของคนในครอบครัว หรือจ้างผู้ดูแลช่วยให้การดูแลเป็นไปอย่างราบรื่น โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ช่วยเหลือตัวเองได้น้อยหรือไม่ได้เลย
เข้าใจความแตกต่าง
ผู้สูงอายุแต่ละคนมีความต้องการที่แตกต่าง การดูแลแบบ Personalize จึงเป็นสิ่งสำคัญ
สังคมคือหัวใจ
การมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม ช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกมีคุณค่า คลายความเหงา ลูกหลานควรส่งเสริมให้พ่อแม่ หรือผู้สูงอายุที่ดูแลได้มีกิจกรรมทางสังคม เช่น เข้าชมรม รำไทเก็ก หรือพบปะเพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง
เทคโนโลยีคือผู้ช่วย
เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในการดูแลผู้สูงอายุ ศึกษาและเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม ช่วยให้การดูแลสะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การติดเครื่องตรวจวัดความดัน กล้องวงจรปิด หรือเครื่องมืออื่นๆ
วางแผนการเงิน
ประกันสุขภาพและประกันระยะยาว ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย ศึกษาข้อมูล เปรียบเทียบตัวเลือก เพื่อความคุ้มค่า
ดูแลทั้งกายและใจ
ผู้ดูแลก็ต้องการการพักผ่อนและเวลาส่วนตัว อย่าลืมดูแลผู้ดูแลให้มีสุขภาพกายและใจที่ดี
สื่อสารอย่างเข้าใจ
ผู้สูงอายุ ด้วยวัยที่อาจทำให้ปัญหาการสื่อสาร ไม่ว่าจะเกิดการเรื่องสุขภาพ หรือ Generation ที่ต่างกัน การพูดคุยหรือพยายามทำความเข้าใจ จะทำให้การดูแลราบรื่นมากขึ้น
บ้านปลอดภัย ไร้กังวล
ปรับสภาพแวดล้อมให้ปลอดภัย ป้องกันอุบัติเหตุ ติดตั้งราวจับ พื้นกันลื่น แสงสว่างเพียงพอ เหมาะกับการอยู่อาศัยและดูแลผู้สูงอายุ
การดูแลผู้สูงอายุ เต็มไปด้วยความท้าทาย แต่ก็แฝงไว้ด้วยความอบอุ่น การดูแลด้วยความรัก ความเอาใจใส่ และความเข้าใจ จะช่วยให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความสุขในช่วงบั้นปลายของชีวิต