นักแสดงหนุ่มมากความสามารถ เจเจ กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม เปิดใจถึงช่วงเปลี่ยนผ่านสำคัญของชีวิต เมื่อเข้าสู่จุดปลายของวัยรุ่นและก้าวสู่การเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว เจเจเผยว่า ความท้าทายที่เขาเผชิญในฐานะทั้งนักแสดง นักร้อง และผู้บริหารสตาร์ทอัพ ทำให้ชีวิตเต็มไปด้วยบทเรียนและการปรับตัว
“งาน 25 ชั่วโมง” กับบทบาทใหม่
เจเจเล่าว่า การต้องรับผิดชอบหน้าที่ในหลายบทบาทพร้อมกัน ทั้งการแสดง การร้องเพลง และการบริหารบริษัท ทำให้เขารู้สึกถึงความท้าทายที่ต้องเผชิญทุกวัน “ผมต้องจัดการทั้งเรื่องพนักงาน การเงิน และปัญหาต่างๆ ที่เข้ามา กลายเป็นว่าสิ่งที่เราเคยสนุก ทุกวันนี้ไม่สนุกเหมือนเดิม เพราะต้องลงรายละเอียดเยอะ และเจอปัญหาแทบทุกวัน”
การปรับมุมมองเพื่อค้นหาความสุข
ในช่วงเวลาที่ทุกอย่างกลายเป็นงาน 25 ชั่วโมง เจเจยอมรับว่าเขาเคยโฟกัสกับอนาคตมากเกินไปจนลืมใช้ชีวิต “ผมตามหาความสำเร็จมากไปจนไม่มีความสุขในชีวิตประจำวัน” เจเจเผยว่าเขาเริ่มปรับตัวโดยเลือกโฟกัสกับปัจจุบัน ทำทุกวันให้ดีที่สุด และปล่อยอนาคตให้เป็นเรื่องของเวลา
อนาคตที่ยังไม่ชัดเจน แต่เต็มไปด้วยการเรียนรู้
เมื่อถูกถามถึงแผนในอีก 5-10 ปีข้างหน้า เจเจยอมรับว่าเขายังมองไม่เห็นภาพชัดเจน แต่สิ่งที่เขาทำอยู่ทุกวันนี้คือการศึกษาตัวเอง และหาความรู้เพิ่มเติมเพื่อพัฒนาตัวเองในทุกด้าน
“ผมพยายามมองวันต่อวัน ศึกษาตัวเองไปเรื่อยๆ ทุกวันนี้ผมยังไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง แต่ผมรู้ว่าเราต้องเตรียมพร้อมและพัฒนาตัวเองต่อไป”
การเปิดใจของเจเจสะท้อนถึงเส้นทางชีวิตที่เต็มไปด้วยความท้าทายและการเติบโตในมิติที่หลากหลาย ซึ่งไม่เพียงแต่สร้างแรงบันดาลใจให้แฟนๆ แต่ยังชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการปรับตัวในทุกช่วงของชีวิต 🌟
ส่วนเรื่องของความรัก ความสัมพันธ์ที่มั่นคงกับแฟนสาว ต้าเหนิง กัญญาวีร์ สองเมือง ที่ครองรักกันมายาวนานกว่า 8 ปี แม้เวลาจะผ่านไป แต่ความรักของทั้งคู่ยังคงแข็งแกร่ง เจเจยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า “ความรักก็ทรงๆ ครับ ต่างคนก็ต่างโต”
ต้าเหนิง: คู่คิดที่สำคัญในชีวิต
เจเจกล่าวถึงความงดงามในตัวต้าเหนิงที่เขาชื่นชมมากที่สุดว่า เป็นเพราะเธอเป็นคู่คิดที่สำคัญ ทั้งสองคนทำงานร่วมกันในฐานะทีมบริหารบริษัท และต้าเหนิงมักช่วยเหลือเขาในทุกสถานการณ์ “ถ้าผมทำสิ่งนี้คนเดียว ผมตายแน่นอน โชคดีที่มีเขาอยู่ด้วย เขาช่วยจัดการหลายอย่าง และช่วยตัดสินใจในเรื่องใหญ่ๆ”
“เธอเป็นคนเดียวที่เตือนสติผมได้”
เจเจเผยอีกว่า สิ่งที่ทำให้เขานับถือและรักต้าเหนิงคือการที่เธอเป็นคนตรงไปตรงมาและจริงใจ “เวลาเราทำอะไรผิด ไม่ว่าจะกับเขาหรือใครก็ตาม เขาจะพูดตรงๆ เตือนสติผมแรงๆ คำพูดของเขามันไม่ใช่คำหยาบ แต่มันแทงลึกจนผมต้องกลับมาคิดทบทวน”
ความสัมพันธ์ระหว่างเจเจและต้าเหนิงเป็นตัวอย่างของการเติบโตไปด้วยกันในทุกมิติ ทั้งในฐานะคู่รักและคู่คิดที่ช่วยกันสร้างความสำเร็จในชีวิต ความเข้าใจและการสนับสนุนซึ่งกันและกันทำให้ทั้งคู่ยังคงเดินหน้าร่วมกันอย่างมั่นคง แม้จะอยู่ท่ามกลางกระแสของวงการบันเทิงที่วุ่นวาย
แฟนๆ ต่างยกให้เจเจและต้าเหนิงเป็นอีกหนึ่งคู่รักตัวอย่าง ที่ไม่เพียงแต่รักกัน แต่ยังช่วยกันพัฒนาความสัมพันธ์ให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ 💖