เมื่อพูดถึงนักร้องลูกทุ่งชื่อดังในยุคนี้ หนึ่งคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้ อย่าง นักร้องวัยรุ่นสายเลือดอีสาน ‘เบิ้ล ปทุมราช’ ที่เคยฝากผลงานยอดฮิตไว้อย่าง อ้ายมีเหตุผล , กอดครั้งสุดท้าย , ให้น้องไปสา , เฮ็ดทุกวิถีทาง และอีกมากมาย แต่ละเพลงล้วนมียอดรับฟังใน Youtube สูงถึงหลักร้อยล้านวิว!
แต่กว่าจะมาถึงวันที่ฝันเป็นจริงได้ ชีวิตของเขาได้ผ่านความยากลำบากมามากมาย โดย เบิ้ล ได้เปิดใจ ถ่ายทอดเส้นทางชีวิต กับ เจนนิเฟอร์ คิ้ม ในรายการ ‘เม้าท์อยู่กับปากอยากอยู่กับคิ้ม Special’ ว่าก่อนจะมาถึงจุดนี้ เคยเกเร เป็นนักเลง ที่แม้แต่แม่ก็ห้ามไม่ได้ ก่อนจะเจอประสบการณ์เฉียดตาย
เบิ้ล : “ ช่วงที่มีหมอลำ แม่ห้ามไว้ไม่อยากให้ไป ผมเตรียมพร้อมจะไปทะเลาะกัน งานลอยกระทง ผมถีบมอไซค์ใส่แม่ จนมอไซค์พัง แม่น้ำตาไหล ร้องไห้ ขอให้อยู่ ออกไปข้างนอกไปโดนเขาไล่ยิง เฉียดตาย ช่วงชีวิตที่รู้สึกว่าเกือบตาย หน้าคนที่ลอยมาครั้งแรกคือหน้าแม่ตอนที่ร้องไห้ ถ้าวันนี้อยู่กับแม่คงไม่ต้องมาหนีลูกปืน หนีมีดแบบนี้ ตื่นเช้ามาจึงตัดสินใจไปทำงาน เป็นพนักงานล้างเครื่องมอเตอร์ไซค์ ไปเป็นพี่เลี้ยงเด็ก 6 เดือน แล้วกลับมาเรียน กศน. และมาเรียนนาฏศิลป์ร้อยเอ็ด ปีถัดมาเป็นนักร้อง ”
จากความลำบากในวัยเด็ก ทำให้ เบิ้ล เกิดแรงผลักดันในการใช้ชีวิต
เบิ้ล : “ แรงผลักดัน คือ อยากมีเงิน อยากให้พ่อแม่สบาย ไม่อยากให้มีหนี้
สมัยก่อนเคยไปยืนมองป้ายโฆษณาที่มี ณเดชณ์ มาริโอ้ ใบเฟิร์น แล้วคิดว่าจะทำยังไงถึงจะได้ไปอยู่จุดนั้น พ่อก็จะไปซื้อผ้าเต็นท์ที่มีรูปพรีเซนเตอร์มามุง ผมก็จะมองตลอด จะทำยังไงให้วันนึงผมได้ไปอยู่แบบพี่มาริโอ้ พี่ใบเฟิร์น ผมอยากจะเป็นเด็กอีสานคนนึงที่จะไปอยู่จุดนั้น ผมต้องทำยังไง ”
เมื่อมีความฝัน เขาก็ไม่หยุดไว้แค่นั้น ถึงแม้ชีวิตจะไม่ง่าย แต่เบิ้ลก็ยังทำตามความฝันตัวเองต่อไป
เบิ้ล : “เชื่อเถอะครับ ว่าคนที่ทำอะไรดูเหมือนง่าย คือ เขาผ่านความยาก ความลำบากมาเยอะ ผมเป็นเด็กที่พ่อแม่ต้องดำนารับจ้าง วันละ 5 บาท 10 บาท เพื่อซื้อกีตาร์ให้ผมฝึกเล่น เพราะครอบครัวผมไม่ได้มีต้นทุนที่สูงเหมือนคนอื่น พ่อทำงานเลี้ยงวัว รับจ้างเกี่ยวหญ้า เผาถ่าน ในช่วงนั้น ผมเอาความลำบากของตัวเองลงเฟสบุ๊ค สร้างคอนเทนท์โดยการแต่งเพลงที่เถียงนาจนมีเพจ U like คลิปเด็ดเห็นแวว แล้วเอาไปแชร์ลงในเพจ จนค่าย อาร์ สยาม ติดต่อมา ”
จากเด็กที่ร้องเพลงที่เถียงนาในวันนั้น กลายเป็นนักร้องลูกทุ่งสายเลือดอีสานชื่อดังในวันนี้ เบิ้ล ปทุมราช ยังได้นำคำสอนของพ่อ มาใช้ดำรงชีวิตจนถึงทุกวันนี้
เบิ้ล : “ วันที่ประสบความสำเร็จ ถามพ่อว่า ถ้าผมกลับมาแล้วผมไม่เหลืออะไรเลย ทั้งชื่อเสียงและเงิน พ่อจะรู้สึกยังไง พ่อถามว่า ตุ๊กตาโดเรม่อนที่แฟนคลับให้เบิ้ล ตัวละเท่าไหร่ ผมบอกพ่อว่าตัวละ 1,500 แล้ววันที่เบิ้ลขึ้นรถทัวร์ไปกรุงเทพ มีเงินเท่าไหร่ 400 แค่ตุ๊กตาตัวนึงก็คุ้มค่าแล้วกับการที่เราได้มา ไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งที่สมบูรณ์ ”
เบิ้ล : “ ผมอยากให้คนที่ไม่มีเงินได้เจอผม และผมจะได้ช่วยเหลือเขา ทำให้ชีวิตเขากลับมาเสมอตัว ไม่ต้องรวยก็ได้ เพราะว่าผมรู้สึกว่าปัจจุบันไม่ได้อยากจะรวยเหมือนแต่ก่อน แต่ผมอยากเสมอตัวด้านความสุข ”
นับว่า เป็นอีกหนึ่งศิลปิน ที่สู้ชีวิต ดิ้นรนเพื่อความฝันของตัวเอง และในวันที่ตัวเองประสบความสำเร็จ ก็ไม่ลืมที่จะแบ่งปันให้กับผู้อื่น นอกจากนี้ เบิ้ล ยังได้แบ่งปันเรื่องราวอีกมายมายทั้งความรัก การทำงาน มิตรภาพ จะสนุก จะซึ้ง แค่ไหน ไปชมกันต่อได้ในรายการ ‘ เม้าท์อยู่กับปากอยากอยู่กับคิ้ม Special ’ ได้ที่นี่
