เอลนิโญและลานีญา เป็นปรากฏการณ์สองขั้วที่ตรงกันข้ามกันภายในปรากฏการณ์ “เอลนิโญ-Southern Oscillation (ENSO)”
ENSO เป็นวัฏจักรของสภาพภูมิอากาศในมหาสมุทรแปซิฟิกบริเวณเส้นศูนย์สูตร ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิผิวน้ำ ปริมาณฝน ความกดอากาศผิวดิน และการหมุนเวียนของอากาศอย่างสม่ำเสมอและรุนแรงในบางช่วง โดยวัฏจักรนี้ส่งผลต่อสภาพอากาศทั่วโลก
- เอลนิโญ คือภาวะที่อุณหภูมิผิวน้ำบริเวณตะวันออก-กลางของมหาสมุทรแปซิฟิกบริเวณเส้นศูนย์สูตรสูงกว่าค่าเฉลี่ย จัดเป็นเฟสอุ่น (warm phase) ของวัฏจักร ENSO
- ลา นิญญา คือภาวะที่อุณหภูมิผิวน้ำบริเวณตะวันออก-กลางของมหาสมุทรแปซิฟิกบริเวณเส้นศูนย์สูตรต่ำกว่าค่าเฉลี่ย จัดเป็นเฟสเย็น (cold phase) ของวัฏจักร ENSO
ลานีญา คืออะไร?
อุณหภูมิผิวน้ำทะเลเขตร้อนแปซิฟิกที่เย็นกว่าปกติ หมายถึง อุณหภูมิของน้ำทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิกบริเวณเขตร้อน มีค่าเฉลี่ยต่ำกว่าค่าปกติในช่วงเวลาเดียวกันของปี สาเหตุหลักๆ ของปรากฏการณ์นี้มีดังนี้
ลานีญา (La Niña)
“ลานีญา” ในภาษาสเปนแปลว่า “เด็กหญิงน้อย” ปรากฏการณ์ลานีญา เกิดขึ้นเมื่อลมค้าตะวันออกเฉียงใต้ในมหาสมุทรแปซิฟิกเขตร้อนพัดแรงกว่าปกติ ส่งผลให้น้ำเย็นจากใต้ผิวน้ำไหลขึ้นมาแทนที่น้ำอุ่นบริเวณผิวน้ำ ทำให้อุณหภูมิน้ำทะเลโดยรวมเย็นลง
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบต่อสภาพอากาศทั่วโลก รวมไปถึงอุณหภูมิผิวน้ำทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิก การละลายของธารน้ำแข็งและหิมะบนเทือกเขาส่งผลให้น้ำจืดไหลลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิก ทำให้อุณหภูมิน้ำทะเลเย็นลง
กระแสน้ำ
กระแสน้ำในมหาสมุทรแปซิฟิกมีบทบาทสำคัญต่อการกระจายความร้อน กระแสน้ำเย็น เช่น กระแสน้ำแคลิฟอร์เนีย และกระแสน้ำเปรู ส่งผลให้อุณหภูมิน้ำทะเลในบริเวณชายฝั่งตะวันตกของทวีปอเมริกาเหนือและทวีปอเมริกาใต้เย็นลง
ผลกระทบ
อุณหภูมิผิวน้ำทะเลเขตร้อนแปซิฟิกที่เย็นกว่าปกติ ส่งผลกระทบต่อสภาพอากาศและระบบนิเวศทางทะเล ดังนี้
- สภาพอากาศ: อุณหภูมิน้ำทะเลที่เย็นลง ส่งผลต่อรูปแบบสภาพอากาศทั่วโลก อาจทำให้เกิดฝนแล้ง น้ำท่วม พายุ และความแปรปรวนของอุณหภูมิ
- ระบบนิเวศทางทะเล: อุณหภูมิน้ำทะเลที่เย็นลง ส่งผลต่อระบบนิเวศทางทะเล ปลาบางชนิดอาจตายหรืออพยพไปยังแหล่งน้ำที่อุ่นกว่า ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อาหารทางทะเล
เอลนีโญ คืออะไร
อุณหภูมิผิวน้ำทะเลเขตร้อนแปซิฟิกที่อุ่นกว่าปกติ หมายถึง อุณหภูมิของน้ำทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิกบริเวณเขตร้อน มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าค่าปกติในช่วงเวลาเดียวกันของปี สาเหตุหลักๆ ของปรากฏการณ์นี้มีดังนี้
เอลนีโญ (El Niño)
คำว่า “เอลนีโญ” ในภาษาสเปนแปลว่า “เด็กชายน้อย” ปรากฏการณ์เอลนีโญ เกิดขึ้นเมื่อลมค้าตะวันออกเฉียงใต้ในมหาสมุทรแปซิฟิกเขตร้อนพัดอ่อนลง ส่งผลให้น้ำอุ่นจากบริเวณเส้นศูนย์สูตรไหลไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก ทำให้อุณหภูมิน้ำทะเลโดยรวมอุ่นขึ้น
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบต่อสภาพอากาศทั่วโลก รวมไปถึงอุณหภูมิผิวน้ำทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิก ก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศ ดูดซับความร้อนจากดวงอาทิตย์ ส่งผลให้อุณหภูมิน้ำทะเลอุ่นขึ้น
กระแสน้ำ
กระแสน้ำในมหาสมุทรแปซิฟิกมีบทบาทสำคัญต่อการกระจายความร้อน กระแสน้ำอุ่น เช่น กระแสน้ำกั๊ฟสตรีม ส่งผลให้อุณหภูมิน้ำทะเลในบริเวณชายฝั่งตะวันออกของทวีปอเมริกาเหนือและยุโรปอุ่นขึ้น
ผลกระทบ
อุณหภูมิผิวน้ำทะเลเขตร้อนแปซิฟิกที่อุ่นกว่าปกติ ส่งผลกระทบต่อสภาพอากาศและระบบนิเวศทางทะเล ดังนี้
- สภาพอากาศ: อุณหภูมิน้ำทะเลที่อุ่นขึ้น ส่งผลต่อรูปแบบสภาพอากาศทั่วโลก อาจทำให้เกิดพายุรุนแรง ภัยแล้ง น้ำท่วม และความแปรปรวนของอุณหภูมิ
- ระบบนิเวศทางทะเล: อุณหภูมิน้ำทะเลที่อุ่นขึ้น ส่งผลต่อระบบนิเวศทางทะเล ปะการังฟอกขาว สัตว์ทะเลบางชนิดตายหรืออพยพไปยังแหล่งน้ำที่เย็นกว่า ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อาหารทางทะเล
ทำไมเอลนีโญและลานีญาจึงเกิดขึ้น
เอลนีโญและลานีญาเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดจากปฏิสัมพันธ์ระหว่างผิวน้ำทะเลกับชั้นบรรยากาศเหนือมหาสมุทรแปซิฟิกเขตร้อน
- การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิผิวน้ำทะเลส่งผลต่อรูปแบบฝนเขตร้อนและลมในชั้นบรรยากาศเหนือมหาสมุทรแปซิฟิก
- ซึ่งในทางกลับกัน ลมฟ้าและกระแสน้ำก็ส่งผลต่ออุณหภูมิและกระแสน้ำของมหาสมุทรด้วยเช่นกัน
รูปแบบของฝนเขตร้อนที่สัมพันธ์กับเอลนีโญและลานีญานี้ ส่งผลกระทบต่อรูปแบบสภาพอากาศทั่วโลก
เอลนีโญและลานีญาเกิดขึ้นบ่อยแค่ไหน?
เอลนีโญและลานีญา เกิดขึ้นทุกๆ 3-5 ปี โดยเฉลี่ย แต่ละเหตุการณ์อาจกินเวลาเพียง 1 ปี หรือยาวนานถึง 3 ปีติดต่อกัน
อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาและความรุนแรงของแต่ละเหตุการณ์นั้น ไม่สามารถคาดเดาได้ล่วงหน้า ข้อมูลทางสถิติเป็นเพียงค่าเฉลี่ยเท่านั้น
นักวิทยาศาสตร์กำลังศึกษาวิจัยเพื่อทำความเข้าใจกลไกเบื้องหลังปรากฏการณ์เหล่านี้ และพัฒนาวิธีการคาดการณ์ที่แม่นยำยิ่งขึ้นในอนาคต
เอลนีโญและลานีญามีระยะเวลานานแค่ไหน?
- เอลนีโญ : จะมีระยะอยู่ประมาณ 9-12 เดือน
- ลานีญา : จะมีระยะอยู่ประมาณ 1-3 ปี
ทั้งคู่เริ่มก่อตัวในช่วงมีนาคม-มิถุนายน ทวีความรุนแรงสูงสุดในช่วงธันวาคม-เมษายน และอ่อนกำลังลงในช่วงพฤษภาคม-กรกฎาคม
อย่างไรก็ตาม เอลนีโญบางครั้งอาจยืดเยื้อนานถึง 2 ปี หรือยาวนานถึง 3-4 ปี เนื่องจากความรุนแรงสูงสุดเกิดในช่วงฤดูหนาว ผลกระทบต่อสภาพอากาศจึงเด่นชัดที่สุดในช่วงเวลานี้เช่นกัน
ข้อมูลอ้างอิง
https://oceanservice.noaa.gov/facts/ninonina.html (Accessed on: 7 May 2024)
https://www.weather.gov/media/ajk/brochures/ENSOFactSheetWinter1617.pdf (Accessed on: 7 May 2024)