การหัดเดินถือเป็นก้าวสำคัญในพัฒนาการของลูกน้อย เป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นสำหรับทั้งเด็กและผู้ปกครอง แต่ละคนมีพัฒนาการไม่เหมือนกัน บางคนอาจเริ่มหัดเดินเร็วกว่าคนอื่นๆ โดยทั่วไปแล้ว เด็กส่วนใหญ่จะเริ่มหัดเดินระหว่าง 9 ถึง 18 เดือน
สัญญาณบอกใบ้ว่าลูกพร้อมสำหรับการเดิน
- คว่ำ: ลูกสามารถคว่ำตัว ยันตัวขึ้น และดันศีรษะและลำตัวขึ้นจากพื้นได้
- นั่ง: ลูกสามารถนั่งตัวตรงโดยไม่ต้องพิงพาสิ่งใด
- ยืน: ลูกสามารถยืนได้โดยใช้เฟอร์นิเจอร์หรือผนังช่วยพยุง
- ก้าวขา: ลูกสามารถก้าวขาไปข้างหน้าได้โดยไม่ต้องพึ่งพาสิ่งใด
ปลดล็อกพัฒนาการ 6 วิธีทำให้ลูกเดินได้
1. พื้นที่ปลอดภัย: เตรียมพื้นที่กว้างขวาง ปราศจากสิ่งกีดขวาง เฟอร์นิเจอร์คม หรือปลั๊กไฟ เพื่อให้ลูกได้ฝึกฝน โดยไม่ต้องกังวล 5 แนวทางการป้องกันอุบัติเหตุในเด็ก
2. แต่งกายสบาย: เลือกเสื้อผ้าที่ใส่สบาย ไม่อึดอัด ช่วยให้ลูกเคลื่อนไหวได้สะดวก
3. กระตุ้นกล้ามเนื้อขา: นวดขาให้ลูก พาลูกเล่นท่าบริหารกล้ามเนื้อขา หรือใช้ของเล่นล่อให้ลูกก้าวขา
4. ฝึกยืน: จับมือลูกไว้แล้วพาลูกยืนโดยไม่ต้องพึ่งพาสิ่งใด
5. ฝึกเดิน: จับมือลูกไว้แล้วพาลูกเดินไปข้างหน้า หรือใช้รถหัดเดิน
6. กำลังใจสำคัญ: พูดชมลูกเมื่อลูกพยายามหัดเดิน แม้จะล้มบ้างก็ตาม
ข้อควรระวัง
- หลีกเลี่ยงรถหัดเดิน: การใช้รถหัดเดินอาจทำให้กล้ามเนื้อขาอ่อนแอ ล่าช้าพัฒนาการการเดินของลูก
- ใจเย็นๆ: ไม่ควรบังคับให้ลูกหัดเดินเร็วเกินไป ควรปล่อยให้ลูกพัฒนาไปตามธรรมชาติ
- เปรียบเทียบไม่ได้: เด็กแต่ละคนมีพัฒนาการไม่เหมือนกัน ไม่ควรเปรียบเทียบลูกกับเด็กคนอื่น
กังวลใจเมื่อลูกช้ากว่าเกณฑ์?
หากลูกมีพัฒนาการล่าช้ากว่าเกณฑ์ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและแนวทางการรักษาที่เหมาะสม
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 6 วิธีทำให้ลูกเดินได้ ร่วมเป็นกำลังใจให้ลูกน้อยก้าวแรกอย่างมั่นใจ สู่การเติบโตที่แข็งแรงและมีความสุข