เคยไหมคะ? เสียงร้องไห้ของลูกน้อยตอนกลางคืนที่ไม่ยอมหยุด ทั้งๆ ที่คุณพ่อคุณแม่ดูแลอย่างครบถ้วนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการให้นม เปลี่ยนผ้าอ้อม กล่อม ปลอบโยน ลองใช้ทุกวิธีที่เคยได้ผล แต่ลูกน้อยก็ยังร้องไห้ไม่หยุด ทำไมกันนะ ที่แท้แล้ว สาเหตุและวิธีแก้ลูกร้องตอนกลางคืนไม่มีสาเหตุมีอะไรบ้าง? ไปดูกัน
ลูกน้อยร้องไห้ตอนกลางคืน ปลอบยังไงก็ไม่ยอมหยุด
ช่วงเวลากลางคืนที่ลูกน้อยร้องไห้ไม่หยุด แม้คุณพ่อคุณแม่จะปลอบโยนอย่างไรก็ตาม ย่อมสร้างความกังวลใจ เพราะไม่รู้ว่าลูกน้อยร้องไห้เพราะอะไร และจะช่วยให้หยุดร้องได้อย่างไร อย่าลืมว่าทั้งลูกน้อยและคุณพ่อคุณแม่ต้องการการพักผ่อน
สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดที่ทำให้ลูกน้อยร้องไห้ตอนกลางคืนคือ หิว หรือ ผ้าอ้อมเปียก นอกจากนั้น ลูกน้อยอาจร้องไห้เพราะรู้สึกไม่สบายตัว หรือ ไม่สบาย การเข้าใจว่าอะไรทำให้ลูกน้อยรู้สึกไม่สบายตัว จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ระบุสาเหตุที่ลูกน้อยร้องไห้ได้ง่ายขึ้น
7 สาเหตุทำไมลูกน้อยถึงร้องไห้ตอนกลางคืน?
ทารกร้องไห้เป็นวิธีการสื่อสารความต้องการ และบางครั้ง การร้องไห้ตอนกลางคืนก็สร้างความกังวลให้กับพ่อแม่เป็นอย่างมาก สาเหตุที่พบบ่อยของการร้องไห้ตอนกลางคืนในทารก ได้แก่:
1. ความหิวโหย
ทารกแรกเกิดมีกระเพาะอาหารที่ยังเล็ก ดังนั้นจึงจำเป็นต้องกินนมบ่อยครั้ง ช่วงแรก แม้ระยะห่างระหว่างการกินนมจะเปลี่ยนแปลงไป แต่การกินนมทุก 2-3 ชั่วโมงถือเป็นเรื่องปกติ ทารแรกเกิดจะตื่นขึ้นมากินนมตอนกลางคืนบ่อยเหมือนตอนกลางวัน รูปแบบการนอนของทารแรกเกิดจึงไม่ต่างกันมากนักระหว่างกลางวันและกลางคืน เมื่ออายุประมาณ 3 เดือน ทารกจะนอนหลับยาวขึ้น และระยะห่างระหว่างการกินนมตอนกลางคืนจะนานขึ้น
2. ท้องอืด
อาการท้องอืดอาจเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ลูกน้อยร้องไห้ตอนกลางคืน บางครั้ง ทารกอาจกลืนอากาศเข้าไปขณะดูดนม ซึ่งทำให้รู้สึกไม่สบายตัว เพื่อป้องกันปัญหานี้ สามารถอุ้มลูกน้อยให้อยู่ในท่าตรงขณะดูดนม นอกจากนี้ยังสามารถช่วยไล่ลมในท้องหลังดูดนมได้ด้วยการ อุ้มลูกน้อยไว้แนบกับไหล่ของคุณแม่ หรือ ให้นั่งบนตัก พร้อมกับลูบหลังเบาๆ เพื่อช่วยไล่ลมออกจากท้อง
3. ท้องผูก
อาการท้องผูกเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ลูกน้อยร้องไห้ งอแง กระวนกระวาย หรือ เจ็บปวด ก่อนขับถ่าย อุจจาระแข็งเป็นก้อน แห้ง และเป็นก้อนกลมแน่น ขับถ่ายยาก ปวดท้อง มีแก๊สในท้อง มีลมในลำไส้ หรือ มีกลิ่นเหม็น โดยอาการมักจะดีขึ้นหลังจากขับถ่าย ทารกที่กินนมผงจะมีโอกาสท้องผูกมากกว่าทารกที่กินนมแม่
4. อาการเจ็บฟัน
อาการเจ็บฟันเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ลูกน้อยร้องไห้ตอนกลางคืน โดยปกติจะเริ่มขึ้นเมื่ออายุประมาณ 6 เดือน แต่ก็อาจเริ่มได้ตั้งแต่ช่วงไหนในปีแรกของลูกน้อย อาการเจ็บฟันสร้างความเจ็บปวดและรำคาญให้ลูกน้อย อาจส่งผลให้มีไข้ ร้องไห้ และนอนไม่หลับตอนกลางคืน
5. อาการโคลิค
หากลูกน้อยมีสุขภาพแข็งแรงแต่ร้องไห้ตอนกลางคืนโดยไม่มีสาเหตุ นานกว่า 3 ชั่วโมงต่อวันและอย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ อาจเป็นอาการโคลิก โคลิกสามารถพบได้ในทารกถึง 1 ใน 5 คน สาเหตุที่แท้จริงยังไม่ทราบแน่ชัด แต่มีแนวโน้มว่าจะเกิดจากอาการเกร็งของลำไส้หรือความไม่สบายในช่องท้อง ทารกที่มีอาการโคลิกอาจทำให้พ่อแม่รู้สึกเครียด แต่ปัญหานี้จะค่อย ๆ หายไปเมื่อลูกน้อยอายุประมาณ 3 ถึง 4 เดือน และโดยทั่วไปไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวล
6. อาการเจ็บป่วย
ทารกที่ไม่สบายตัว เช่น มีไข้ หรือ ปวดตามร่างกาย เนื่องจากการติดเชื้อ หรือ อาการเจ็บป่วยอื่นๆ อาจร้องไห้มากกว่าปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น มีไข้ ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนว่าลูกน้อยอาจเจ็บป่วย
7. อาการแหวะนม
อาการแหวะนม หรือ การสำรอกนม อาจทำให้ลูกน้อยสำรอกนมออกมาหลังกินนม และอาจมีอาการสะอึก ซึ่งปัญหานี้อาจรบกวนการนอนหลับตอนกลางคืน โดยเฉพาะหลังกินนม หากสงสัยว่าลูกน้อยร้องไห้เพราะอาการแหวะนม ควรปรึกษาเจ้าหน้าที่สาธารณสุข หรือ แพทย์ เพื่อขอคำแนะนำ
ความรู้สึกไม่สบาย สาเหตุของการร้องไห้ตอนกลางคืนในทารก
ทารกร้องไห้เพื่อสื่อสารความรู้สึกไม่สบาย ซึ่งสาเหตุที่พบบ่อย ได้แก่
- กินนมเร็วเกินไป หรือ กินนมมากเกินไป ลูกน้อยอาจสำลัก หรือ แหวะนม ออกมา สังเกตขนาดรูที่หัวนมยาง ไม่ควรใหญ่เกินไป ที่จะทำให้ลูกดูดนมเร็วเกินควร และ ไม่ควรบังคับให้ลูกน้อยกินนมจนเกินความต้องการของเค้า เพราะอาจทำให้รู้สึกไม่สบายท้องได้
- ทารกบางคนอาจรู้สึกไม่สบายระหว่างดูดนม ส่งผลให้ร้องไห้ งอแง หรือ ดูดนมไม่ต่อเนื่อง สาเหตุหลักๆ มาจากท่าทางการดูดนมที่ไม่สบาย ลองปรับเปลี่ยนท่าทางดังนี้ เพื่อช่วยให้ลูกน้อยรู้สึกผ่อนคลาย และ ดูดนมได้อย่างสบายขึ้น
- ผ้าอ้อมเปียกหรือสกปรก ทารกมักร้องไห้เพื่อสื่อสารความต้องการ และ สัญญาณที่บ่งบอกได้ชัดเจนคือ “ผ้าอ้อมเปียก หรือ สกปรก” การหมั่นตรวจเช็ด และ เปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูกน้อยอยู่เสมอ จะช่วยลดความระคายเคือง ป้องกันผื่นแพ้ และ ทำให้ลูกน้อยรู้สึกสบายตัว ส่งผลต่อการนอนหลับที่ดี
- ทารกอาจร้องไห้ เพราะรู้สึก “ร้อน” หรือ “หนาว” เกินไป ควรตรวจสอบเสื้อผ้าของลูกน้อย ว่า รัด อึดอัด หรือ ไม่เหมาะสมกับสภาพอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากอุณหภูมิเปลี่ยนไป ตั้งแต่ช่วงเวลาที่แต่งตัวให้ลูกน้อย
7 วิธีทําให้ลูกหยุดร้องตอนกลางคืน
1. ตรวจสอบความต้องการพื้นฐาน
- เปลี่ยนผ้าอ้อม: ทารกร้องไห้ เพราะรู้สึกอึดอัด เปียกแฉะ ลองเปลี่ยนผ้าอ้อมก่อนเป็นอันดับแรก
- หิว: ทารกร้องไห้ เพราะหิว ลองให้นม หรือ ชงนมให้ทาน
- ร้อน หรือ หนาว: ทารกร้องไห้ เพราะรู้สึกไม่สบายตัว ลองปรับอุณหภูมิห้อง ให้เหมาะสม
- ง่วงนอน: ทารกร้องไห้ เพราะง่วงนอน ลองสร้างบรรยากาศให้เหมาะแก่การนอน เช่น หรี่ไฟ ร้องเพลงกล่อม
2. สัมผัสโอบกอด
- อุ้มทารกแนบอก กอด หรือ โอบไหล่ ทารกรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย และ ผ่อนคลาย
- นอนคว่ำบนท้องแม่: ทารกรู้สึกเหมือนอยู่ในครรภ์มารดา อุ่นใจ และ หยุดร้องไห้
3. กล่อมด้วยเสียง
- ร้องเพลงกล่อม: เสียงร้องเพลง และ น้ำเสียงอ่อนโยน ช่วยให้ทารกรู้สึกผ่อนคลาย
- พูดคุย: พูดคุยกับทารก ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน บอกให้รู้ว่าแม่อยู่ตรงนี้ และ พร้อมจะดูแล
- เสียงธรรมชาติ: เปิดเสียงธรรมชาติ เช่น เสียงคลื่น เสียงฝน ช่วยให้ทารกรู้สึกผ่อนคลาย
4. เคลื่อนไหว
- โยกเบาๆ: โยกตัว หรือ เปล เบาๆ ไปมา ทารกรู้สึกเหมือนอยู่ในครรภ์มารดา และ หยุดร้องไห้
- พาเดินเล่น: ใส่ทารกในรถเข็น เข็นไปมาเบาๆ ทารกรู้สึกเพลิดเพลิน และ หยุดร้องไห้
- อาบน้ำอุ่น: น้ำอุ่นช่วยให้ทารกรู้สึกผ่อนคลาย กล้ามเนื้อคลายตัว เตรียมความพร้อมสำหรับการนอนหลับ
5. สิ่งของดึงดูดความสนใจ
- โมบาย: แขวนโมบายเหนือเปล ทารกจะมองเพลิดเพลิน และ หยุดร้องไห้ (ไม่ค่อยแนะนำ)
- ของเล่น: ให้ทารกดูด หรือ เล่นของเล่น เบี่ยงเบนความสนใจ
- ผ้าห่ม: ทารกบางคน รู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย เมื่อได้สัมผัสผ้าห่ม
6. สังเกตอาการผิดปกติ
- ทารกร้องไห้ นาน หรือ ร้องไห้แบบไม่หยุด
- มีไข้ อาเจียน ท้องเสีย
- หายใจลำบาก ซึม หรือ ไม่ตอบสนอง
7. เทคนิคพิเศษ
- จุกหลอก: ทารกบางคน ชอบดูดจุกหลอก ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย และ หยุดร้องไห้
- White noise: เสียงรบกวนสีขาว ช่วยให้ทารกรู้สึกผ่อนคลาย และ หลับง่าย
- เทคนิคผ่อนคลายสำหรับคุณแม่: คุณแม่เครียด หรือ กังวล ทารกจะรับรู้ ลองใช้วิธีผ่อนคลาย เช่น หายใจเข้าลึกๆ ฟังเพลง
หลายครั้งที่เสียงร้องไห้ของลูกน้อย อาจทำให้คุณพ่อคุณแม่รู้สึก “หมดแรง เหนื่อย และ หงุดหงิด” เพราะไม่สามารถปลอบโยนให้ลูกหยุดร้องได้ เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้กับพ่อแม่ทุกคน ไม่ต้องรู้สึกแย่ หรือ อายที่จะขอความช่วยเหลือ คุณสามารถขอความช่วยเหลือจาก คนในครอบครัว เพื่อนสนิท คุณหมอ หรือ เจ้าหน้าที่ได้เสมอ
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 7 วิธีแก้ลูกร้องตอนกลางคืนไม่มีสาเหตุ สามารถนำไปปรับใช้กัน หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณพ่อแม่ในขณะนี้ได้