ภัยร้ายใกล้ตัวที่ซ่อนอยู่ในโลกออนไลน์ ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น การสื่อสารและการสร้างความสัมพันธ์ก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ขณะเดียวกัน มิจฉาชีพก็ปรับตัวตามสถานการณ์ โดยใช้ช่องทางออนไลน์ในการหลอกลวงผู้คนในรูปแบบใหม่ๆ หนึ่งในรูปแบบที่พบได้บ่อยและสร้างความเสียหายให้กับผู้บริสุทธิ์จำนวนมาก คือ “หลอกให้รักแล้วชวนลงทุน”
กลโกงหลอกให้รักแล้วชวนลงทุนแบบนี้ทำงานอย่างไร?
- สร้างโปรไฟล์ปลอม: มิจฉาชีพจะสร้างโปรไฟล์ปลอมบนโซเชียลมีเดียหรือแอปพลิเคชันหาคู่ โดยใช้ภาพบุคคลที่ดูน่าสนใจและสร้างความประทับใจ
- สานสัมพันธ์: หลังจากสร้างความคุ้นเคย มิจฉาชีพจะค่อยๆ สร้างความสัมพันธ์อันใกล้ชิด โดยแสดงความเอาใจใส่และเข้าใจปัญหาของคุณ
- ชักชวนลงทุน: เมื่อความสัมพันธ์แน่นแฟ้นขึ้น มิจฉาชีพจะเริ่มชักชวนให้คุณลงทุนในโครงการต่างๆ ที่ให้ผลตอบแทนสูง โดยอ้างว่าเป็นโอกาสทองที่หาได้ยาก
- หลอกลวงให้โอนเงิน: เมื่อคุณตัดสินใจลงทุน มิจฉาชีพจะขอให้คุณโอนเงินเข้าบัญชีที่เตรียมไว้ และเมื่อได้เงินไปแล้วก็จะหายตัวไป
ทำไมถึงหลงเชื่อ?
- ความเหงา: ผู้คนที่รู้สึกเหงาหรือขาดความอบอุ่นมักจะเปิดใจรับฟังคำพูดหวานๆ ของมิจฉาชีพได้ง่าย
- ความโลภ: ความต้องการที่จะรวยทางลัดทำให้หลายคนหลงเชื่อคำชักชวนให้ลงทุน
- ความไว้ใจ: เมื่อมิจฉาชีพสร้างความสัมพันธ์ที่น่าเชื่อถือได้ ผู้คนก็จะลดละความระมัดระวัง
วิธีป้องกันตัวเอง
- ระวังโปรไฟล์ที่ดูดีเกินจริง: หากพบโปรไฟล์ที่ดูสมบูรณ์แบบเกินไป ควรตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม
- อย่าเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวมากเกินไป: ข้อมูลส่วนตัวของคุณอาจถูกนำไปใช้ในการหลอกลวงได้
- ไม่ควรโอนเงินให้คนที่เพิ่งรู้จัก: ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม อย่าโอนเงินให้คนที่เพิ่งรู้จักทางออนไลน์
- ปรึกษาคนใกล้ชิด: หากมีใครมาชักชวนให้ลงทุน ควรปรึกษาคนใกล้ชิดหรือผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ
หากคุณตกเป็นเหยื่อ
- แจ้งความ: รีบแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที
- ติดต่อธนาคาร: แจ้งธนาคารเพื่อระงับบัญชีและติดตามเงินที่สูญเสียไป
- รวบรวมหลักฐาน: รวบรวมหลักฐานการสนทนาและหลักฐานการโอนเงิน เพื่อเป็นประโยชน์ในการดำเนินคดี
การหลอกลวงแบบ “หลอกให้รักแล้วชวนลงทุน” เป็นภัยคุกคามที่เราทุกคนต้องเผชิญ เพื่อป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ เราต้องเพิ่มความระมัดระวังและใช้สติในการตัดสินใจเสมอ อย่าปล่อยให้ความรักและความโลภบดบังเหตุผล